ย้อนกลับไปหน้า Alumni Recognition
ผู้สร้างบทบาทพยาบาลแห่งอนาคต :
รองศาสตราจารย์ ดร.พูลสุข ใช้ศักยภาพในการริเริ่มทำหลักสูตร Master in Nursing Science (international Program) โดยจัดการเรียนการสอนผสมผสานที่เรียกว่า Hybrid Program ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ลักษณะ Flexi Program 3 หลักสูตร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ได้แก่ Double Degree หลักสูตรพยาบาลบัณฑิตระหว่าง Mahidol University และ Daikin University Dual Degree ปริญญาตรี พยาบาลศาสตร์ ควบปริญญา โท ระบาดวิทยาคลินิกเรียนต่อเนื่อง 6 ปี Nursing Accelerated Program สำหรับผู้ที่จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่นๆ ที่ต้องการเรียนพยาบาล ใช้เวลา 2-3 ปี โดยการเทียบโอนหน่ายกิต โดนมีการดำเนินการเปิดเรียนไปแล้ว 3 รุ่น ทั้งนี้ท่านยังสร้างหลักสูตร Double Degree พยาบาลศาสตร์บัณฑิต ระหว่าง โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยคุณหมิง ประเทศจีน เป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดการสอนรูปแบบนี้ เพื่อเป็นรูปแบบความร่วมมือทางการศึกษาพยาบาลกับนานาชาติ นอกจากได้วางแผนเปิดหลักสูตรนานาชาติให้กับนักศึกษาทั่วไปเพื่อรองรับการเป็น medical hub และ global nurse สร้างหลักสูตร Dual Degree ปริญญา โท เอก ระหว่าง มหาวิทยาลัย มหิดล กับ Case Western University ซึงจะเป็นหลักสูตรที่แก้ปัญหารการขาดแคลนอาจารย์พยาบาล และให้มีวิจัยที่มีการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ Bio data sciences ริเริ่มให้นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรวุฒิบัตรผู้ปฏิบัติการทางพยาบาลขั้นสูง ใช้ความรู้ให้กับพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาการดูผู้ป่วยที่ซับซ้อน ท่านเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีได้รับการรับรอง ACEN ตั้งแต่ปี 2022-2028 เป็น 2 สถาบันแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ผลงานด้านการวิจัยของท่านคือ สนับสนุนการทำวิจัยและการตีพิมพ์นานาชาติของอาจารย์พยาบาล ทำให้โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี มีผลงานตีพิมพ์วิจัยนานาชาติเพิ่มขึ้น และรวมทั้งสนับสนุนการหาทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกคณะ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด -19 เป็นที่น่าภูมิใจที่สถาบันการศึกษาพยาบาลได้ออกมาช่วยบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชน และเป็นนวัตกรรมให้สถาบันการพยาบาลอื่นนำไปปฏิบัติตาม ได้แก่ ร่วมจัดตั้ง Community Isolation ศูนย์พักคอยสำหรับดูแลตนเองในระบบชุมชนให้กับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพานิชยการเจ้าพระยา ซึ่งริเริ่มการวางระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชนที่บูรณาการระหว่างศักยภาพของชุมชนและศักยภาพคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ตอบรับปัญหาการขาดแคลนเตียงรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลรามาธิบดี และเป็นรูปแบบในการจัด Community Isolation และออกรายการ ตอบโจทย์ เสียงสะท้อนจาก”คนด่านหน้า” สนามรบ “โควิด-19” เพื่อสะท้อนบทบาทของพยาบาลที่เป็นคนทำงานด่านหน้าในช่วงการแพร่ระบาดให้สังคมรับรู้เปิดหลักสูตรอบรมติดอาวุธนักรบเส้นด้าย เพื่อให้ความรู้แก่อาสาสมัครดูแลผู้ป่วยจากการติดเชื้อ COVID-19 เป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวของประเทศไทยที่เพิ่มศักยภาพและคุณค่าของผู้ติดเชื้อ ลดการตีตราในกลุ่มผู้ติดเชื้อ สอดคล้องกับ SDGs จัดตั้งระบบ สายด่วน COVID-19 Call center ตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19ในระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน และเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนที่หลากหลายมากขึ้น โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีได้ขอทุนสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นจำนวนเงิน 9 ล้านบาทเพื่อสร้าง line official account และสร้าง chat bot ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง และมีอาจารย์พยาบาลเข้าไปตอบในช่วงเวลา 16.00 - 20.00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีประชาชนมีปัญหาสุขภาพจิต โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดทำ Call Center สายด่วนปรึกษาสุขภาพจิต โดยอาจารย์พยาบาลสาขาการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต และจัดทีมอาจารย์พยาบาลโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ไปออกรายการพิเศษ Thai PBS สู้โควิด-19 เป็นรายการสด เพื่อไปให้ความรู้แก่ประชาชน เป็นเวลา 3 เดือน จากการที่อาจารย์พยาบาลได้ส่วนร่วมในโครงการต่างๆ ที่ริเริ่มโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ทำให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชนที่มีผลในวงกว้าง อีกทั้งทำให้บุคลากรปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานสื่อสารข้อมูลสุขภาพที่ใช้สื่อสังคมเป็นช่องทาง และยังเป็นต้นแบบให้กับสถาบันทางการศึกษาพยาบาลอีกหลายแห่งในการปรับวิธีการสื่อสารข้อมูลทางสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งยังทำให้บุคลากรในองค์กรมีการปรับตัวกับสถานการณ์การระบาดอย่างสร้างสรรค์ นับได้ว่าเป็นองค์กรหนึ่งทีมีความเป็น Agility ต่อสถานการณ์วิฤตได้ดี
อ่านเรื่องราว
ผู้สร้างเครือข่ายการสร้างเสริมสุขภาพ :
ศ.ดร.นพวรรณ ใช้ศักยภาพในการชักนำการสร้างเสริมสุขภาพโดยการสร้างเครือข่ายและขยายผลให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยงาน/องค์กรภาครัฐและเอกชนตลอดจนชุมชน ได้ร่วมพัฒนาโมเดลการขับเคลื่อนการทำงานสร้างเสริมสุขภาพร่วมกันในชุมชน (Community engagement model) โดยนำไปใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพชุมชนที่มีความหลากหลาย ส่งผลให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้และเกิดหุ้นส่วนความร่วมมือทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต นอกจากนี้ยังใช้เป็นยุทธศาสตร์การดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มสร้างสุขรามาธิบดี ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายชุมชนรอบข้างในการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ ผู้พิการร่วมผลิตและแปรรูปอาหารโดยร่วมกับคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำผลผลิตสู่แผนกโภชนาการเพื่อประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยและจำหน่ายราคาถูกให้กับบุคลากร ผู้รับบริการและประชาชนทั่วไป ท่านเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับรางวัลด้านองค์กรสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รางวัลพระราชทาน Princess Health Award 2022 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในปี 2565 โล่ Healthy Organization จากเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ในปี 2564 รวมทั้งโล่ประกาศเกียรติคุณ Healthy Organization Award 2022-2023 ประเภทกระบวนการดำเนินงาน ประเภททีมผู้นำสุขภาพและประเภทนวัตกรรม ท่านได้พัฒนาทีมจิตอาสาจากนักศึกษาและบุคลากรศูนย์สร้างเสริมสุขภาพและสุขภาวะและโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีในการดูแลชุมชนต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยพัฒนาชุมชนต้นแบบปลอดบุหรี่ ชุมชนต้นแบบการดูแลลองโควิดและทำการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ นำมาพัฒนานวัตกรรมระบบคัดกรองและจัดการภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย ตลอดจนพัฒนาหลักสูตรสำหรับคนไทยและแรงงานข้ามชาติที่เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุในชุมชนร่วมกับสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชียและสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะยื่นขอเทียบมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ สาขาบริการสุขภาพบุคคล อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุและเพื่อนผู้สูงอายุ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
จากการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2562 เรื่อง “รวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง” สู่การสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุกโดยสร้างความตระหนักของชุมชนในการคัดกรองมะเร็ง ตลอดจนการดูแลระยะท้ายโดยเป็นผู้เสนอแนวคิดนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่อง ระเบียบการลา (Family leave) ของคนวัยทำงานที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งระยะท้ายร่วมกับสถาบันมะเร็ง เครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งและทีมสหวิชาชีพ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างที่สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) เตรียมข้อเสนอเข้าสู่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ จากการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ส่งผลให้เป็นที่ยอมรับของชุมชนและได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากสำนักจุฬาราชมนตรี ในฐานะผู้บำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ของกิจการศาสนาและสังคมในปี 2563 ได้รับรางวัลประเภทผู้นำองค์กร "ยอดเยี่ยม" จากเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ในปี 2565 ได้รับโล่สามศร จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นด้านบริการสังคมจากสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลรามาธิบดีในปี 2566 และในปี 2567 ได้รับรางวัล “ศิษย์เก่าดีเด่น” 55 ปี วันพระราชทานนาม 136 ปี มหาวิทยาลัยมหิดล และศิษย์เก่าดีเด่นด้านการศึกษา จากสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลรามาธิบดี
อ่านเรื่องราว
ผู้ผลักดันหลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์สัตว์ทดลอง :
สพ.ญ.ธัญญธรเป็นสัตวแพทย์ด้านสัตว์ทดลองที่มีประสบการณ์ด้านการเลี้ยงและใช้สัตว์ทดลองมากกว่า 11 ปี มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิทยาศาสตร์สัตว์ทดลองโดยดำเนินงานด้านการสัตวแพทย์สัตว์ทดลองและบริหารจัดการหน่วยงานศูนย์สัตว์ทดลอง สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานเอแลค อินเตอร์เนชั่นแนล (AAALAC International) แบบ Campus Wide เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยซึ่งเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติในโปรแกรมการเลี้ยงและดูแลสัตว์ทดลองทุกชนิดภายในสถาบันเป็นระยะเวลามากกว่า 7 ปี ในปัจจุบัน สพ.ญ.ธัญญธรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สัตว์ทดลอง สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นคณะกรรมการให้กับสถาบันพัฒนาการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ สำนักงานการวิจัย โดยมีบทบาทในการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์และส่งเสริมให้เกิดการดำเนินการตามจรรยาบรรณการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังดำรงตำแหน่ง AdHoc Specialist ให้กับ AAALAC International เพื่อส่งเสริมโปรแกรมการเลี้ยงและใช้สัตว์ในระดับสากลและอยู่ในระหว่างการผลักดันหลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์สัตว์ทดลองให้แก่ประเทศไทยให้ทัดเทียมในระดับนานาชาติ
“คำขวัญของมหาวิทยาลัยมหิดลที่เป็นดั่งคำที่ใช้ดำเนินชีวิตได้ทุกเรื่อง คือ ‘อตฺตานํ อุปมํ กเร’ พึงปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนดังปฏิบัติต่อตนเอง เช่นเดียวกับการปฏิบัติงานกับสัตว์ทดลองที่เสียสละชีวิตเพื่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ พึงปฏิบัติกับสัตว์นั้นเช่นเดียวกับปฏิบัติต่อตนเอง” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก สพ.ญ.ธัญญธร ยิ้มสู้
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
เภสัชกรผู้ยกระดับประสิทธิภาพของระบบการจัดการด้านยา :
ภก.ทศพล ได้นำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยในบทบาทของเภสัชกรประจำหอผู้ป่วยวิกฤต เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยา นำไปสู่การร่วมออกแบบระบบการทำงานร่วมกันกับทีมสหสาขาวิชาชีพ ทั้งระบบงานด้านเภสัชกรรม เช่น การใช้ยาความเสี่ยงสูง การพัฒนาระบบการสั่งยาผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ (computer physician order entry system) การกำหนดแนวทางปฏิบัติ เรื่อง การสั่ง เบิก และจ่ายยาฉุกเฉิน/ยาที่ให้ทันที ภก.ทศพลได้มีส่วนร่วมทั้งการเป็นหลักและสนับสนุนกับทีมพัฒนาในหน่วยงานอื่น ในการผลักดันแนวทางปฏิบัติโครงการต่าง ๆ จนเกิดความสำเร็จ ในหลายโครงการตลอดมา เช่น ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยการทบทวนหลักฐานทางวิชาการ กำหนดเกณฑ์การใช้ยา Human Albumin ของโรงพยาบาลร่วมกับทีมแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง สามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องลงได้มากกว่า 1 ล้านบาท ด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบบูรณาการได้ร่วมวางระบบการดูแลรักษาผู้ป่วย ครอบคลุมทุกกลุ่มตั้งแต่เด็กจนกระทั่งผู้สูงอายุ มีการออกแบบ ปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมการดูแลผู้ป่วยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้การบริการที่มีคุณภาพอันนำไปสู่ผลลัพธ์การรักษาที่ดีและได้ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานเฉพาะโรค (DSC) เป็นต้น
“มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 เป็นสถานที่ที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตและนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้อื่น ผ่านการปฏิบัติงานในทุก ๆ วัน เป็นสถานที่ที่ปลูกฝังและหล่อหลอมหลักคิดในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม การแบ่งปัน มีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ผ่านประสบการณ์ในการเรียนและทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัย” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ภก.ทศพล เลิศวัฒนชัย
อ่านเรื่องราว
อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร :
คุณสุวรรณาได้ริเริ่มดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร เพื่อลดปัญหาภาวะ โลกร้อนและการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกรุงเทพมหานครอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ด้วยเล็งเห็นว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อประชากรสูงถึง 7.1 ตันต่อคนต่อปี (ปี พ.ศ 2550) โดยในปี พ.ศ. 2549 ได้ยกร่างแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 – 2555 โดยกำหนดเป้าหมายลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของปริมาณการปลดปล่อยตามการคาดการณ์ในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งผลการดำเนินการตามแผนดังกล่าว สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี พ.ศ. 2555 ได้ร้อยละ 14.3 จากความสำเร็จดังกล่าวนำไปสู่การจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2556 - 2566 ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) และความร่วมมือจากรัฐบาลท้องถิ่น เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยร้อยละ 13.57 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเทียบกับการดำเนินงานในกรณีปกติ (Business-as-Usual: BAU) ในปี 2563
“มองทุกปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย มหาวิทยาลัยมหิดลสอนให้เราเป็นคนที่มีเหตุผล ไม่กลัวปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้หลักคิดทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาและมองโลกในแง่ดี ก็เลยทำให้มีโอกาสได้ประสบความสำเร็จ ภาคภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เข้ามาเป็นสมาชิกและจบการศึกษาที่นี่” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจากคุณสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
การแพทย์ทหารและการพัฒนาคลินิกเฉพาะทางในประเทศไทย :
ศ.คลินิก พลโท นพ.ภานุวิชญ์ มีผลงานที่เกิดจากการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เป็นที่ประจักษ์ว่าได้สร้างคุณความดีอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ได้แก่ 1. การนำสาย Latex surgical Tube มาใช้ในการรัดห้ามเลือดทหารที่เหยียบกับระเบิดขาขาดซึ่งก่อนใช้มีอัตราการเสียชีวิต 100% หลังจากได้นำ Latex surgical Tube มาใช้อัตราการเสียชีวิตเป็น 0% ต่อมากองทัพบกได้ประกาศให้ Latex surgical Tube เป็นอุปกรณ์ประจำกายของทหารทั้งกองทัพ 2. ขณะเป็นผู้อำนวยการกอง โสต ศอ นาสิกกรรม ได้ก่อตั้งและพัฒนา Subspecialty Clinic ของแผนกหูคอจมูก เป็นสถาบันแรกของประเทศไทย ที่สามารถจัดแบ่งสาขาย่อยได้ทั้ง 7 สาขาดังนี้ คลินิก Allergy คลินิก Rhinology and Sinuses คลินิก Otoneurology คลินิก Head – Neck and Reconstructive Surgery คลินิก Pediatric Otolaryngolygy คลินิก Voice and Swallowing คลินิก Snoring และได้รับการยกย่องจากวารสาร Asiaweek ว่าเป็นหน่วยงานรักษาพยาบาลโรคทาง หู คอ จมูก ที่มีมาตรฐานแห่งหนึ่งในเอเชีย 3. เป็นผู้สนับสนุนและให้แนวคิด ในการเป็นผู้นำด้านการแพทย์ทหารในอาเซียน โดยในปี 2013 ได้นำทีมแพทย์ทหารไทยร่วมการฝึกผสมอาเซียนด้านภัยพิบัติที่ประเทศบรูไน และได้รับการชื่นชมจากสุลต่านบรูไนถึงศักยภาพของแพทย์ทหารไทยที่สามารถลงทางดิ่งจากเฮลิคอปเตอร์เข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติและทำสะพานเชือกเร่งด่วนนำผู้ป่วยกลับมายังพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว ในปี 2016 กระทรวงกลาโหมไทยได้รับการยอมรับให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน (ASEAN Center of Military Medicine : ACMM) ขึ้นโดยมีที่ตั้งถาวรที่กรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบัน
“มีความภาคภูมิใจที่จบแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่ยอมรับของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ศ.คลินิก พลโท นพ.ภานุวิชญ์ พุ่มหิรัญ
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ทันตแพทย์นักเขียนซีไรต์ ปี 2567 :
ทพ.ประเสริฐศักดิ์เป็นทันตแพทย์ใช้ทุนที่ทำงานอยู่ในชุมชนต่างจังหวัด เคยได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้างาน HRD (Human Resources Development) และอยู่ในหัวหน้างานสุขศึกษาที่ปรึกษาคลินิกเพื่อนใจวัยรุ่นและผู้ดูแลโครงการ Stop Teen Mom ที่โรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ จนได้รับรางวัลทันตแพทย์ดีเด่น จังหวัดบึงกาฬ ในปี 2558 นอกจากนี้ยังมีความสามารถทางด้านการเขียนวรรณกรรมและได้รับการยกย่องมากมาย เช่น รางวัลชนะเลิศ เรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ รุ่นประชาชนทั่วไป (อพวช.) รางวัลรองชนะเลิศการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า (สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) ปัจจุบันนวนิยายเรื่อง “กี่บาด” ของทพ.ประเสริฐศักดิ์ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2567 ด้านศิลปะการประพันธ์ มีทั้งขนบวรรณศิลป์แบบดั้งเดิมประสานกับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยใช้ศิลปะการทอผ้าและลวดลาย สื่อความหมายและดำเนินเรื่องอย่างมีเชิงชั้นเต็มไปด้วยสีสันท้องถิ่น นำพาผู้อ่านสู่อารมณ์สะเทือนใจในชะตากรรมของมนุษย์ แม้จะต้องเผชิญประสบการณ์หรือความทรงจำอันปวดร้าวเพียงใด ชีวิตก็ต้องเดินไปข้างหน้า และถักทอเรื่องราวอันเป็นวัฒนธรรมเรื่องเล่าของมนุษยชาติต่อไป
"มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นทั้งสถานที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้และหล่อหลอมความรู้สึก เป็นอันหนึ่งเดียวกันกับเพื่อนมนุษย์และโลกใบนี้ สอนให้เห็นด้านของความเห็นอกเห็นใจ เข้าหาผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เจ็บป่วยหรือผู้ที่กำลังเผชิญความทุกข์จากปัญหาต่างๆ ของสังคม ตลอดเวลาที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดลทั้งก่อนปริญญาและหลังปริญญา มีโอกาสได้รายล้อมไปด้วยบรรยากาศที่ดีในการเรียนรู้ บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และยึดโยงกับสังคมในทุกระดับ ทำให้เกิดแรงขับดันอย่างแรงกล้าที่จะผลิตผลงานอะไรสักอย่างที่เป็นที่จดจำและเป็นประโยชน์กับคนอื่น ไม่แง่ใดก็แง่หนึ่ง" ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจากทพ.ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
Teeth for life เสริมสุขภาพช่องปากตั้งแต่เกิดจนชรา:
ทพ.อิศรานุวัฒน์ เป็นผู้นำแนวคิด Teeth for life มาผลักดันการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากตั้งแต่เกิดจนถึงวัยชรา ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนจนเกิดความยั่งยืนเห็นผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์และได้ถูกนำเสนอทั้งเวทีระดับชาติและนานาชาติ โดยภาคประชาชนมีส่วนสนับสนุนการดำเนินการผ่านเครือข่ายอิสระ เช่น ชมรมคนรักฟัน เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน และเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี นอกจากนี้ในสภาวะที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงบริบทเป็นสังคมผู้สูงอายุ ก็ได้ดำเนินการจัดการป้องกันภาวะปอดอักเสบจากการสำลักในผู้สูงอายุติดเตียงที่มีภาวะกลืนลำบากและได้เผยแพร่ความรู้นี้ไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้สามารถมีการจัดการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงได้ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งการบูรณาการสุขภาพช่องปากกับสุขภาพองค์รวมผ่านการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ได้แก่ งานวิจัยเรื่องประสิทธิผลของชุดโปรแกรมการให้ทันตสุขศึกษาสำหรับผู้ดูแลเด็กเล็กอายุ 2 ถึง 5 ปี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย นอกจากนั้นยังอุทิศตนโดยการลงพื้นที่ให้บริการรักษาทางทันตกรรมให้แก่นักโทษในเรือนจำกลางราชบุรีและเรือนจำเขาบินราชบุรีเป็นเวลาต่อเนื่องมากกว่า 15 ปี ด้วยบทบาทของผู้ดูแลทันตสุขภาพที่อยากจะเห็นประชาชนชาวไทยมีสุขภาพช่องปากที่ดีปราศจากโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต
อ่านเรื่องราว
ผู้มีวิสัยทัศน์ผ่านการทำงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคม :
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์อุดม เป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ผ่านการทำงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติได้แก่ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ตามลำดับ ผลงานของท่านได้แก่การยกระดับคุณภาพบริการสุขภาพของโรงพยาบาลศิริราชให้ผ่านการรับรองของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ขึ้นสู่ระดับสูงที่เรียกว่า "Advanced HA" ได้สำเร็จเป็นโรงพยาบาลแรกของประเทศไทยและยังเป็นผู้วางนโยบายและผลักดันให้โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาการุณย์ได้รับการรับรองมาตรฐานการรักษาพยาบาลระดับสากล JCI อีกทั้งการทำงานของท่านร่วมกับกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขสามารถสรุปผลสำเร็จการดำเนินงานปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขออกมา 5 ด้านได้แก่ 1. การปฏิรูปการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รวมถึงโรคระบาดระดับชาติและโรคอุบัติใหม่ 2. การปฏิรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสร้างเสริมสุขภาพ ความรอบรู้ด้านสุขภาพการป้องกันและดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อทำให้เกิด Healthy Workplace Policy ระดับประเทศ 3. การปฏิรูประบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุด้านการบริบาลการรักษาพยาบาลที่บ้านเกิดการปรับหลักสูตรการพยาบาลทั่วประเทศ 4. การปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพและกองทุนที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการปฏิรูปบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค 5. การปฏิรูปการบริหารจัดการเขตสุขภาพทำให้เกิด Sandbox เขตสุขภาพนำร่อง 4 เขต เกิดระบบการกระจายอำนาจและกลไกบริหารจัดการเขตสุขภาพเกิดรูปแบบบริการใหม่หลากหลายเพื่อตอบสนองปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง ด้วยการทำงานอย่างจริงจัง ความเสียสละ อดทน ทุ่มเทให้เวลาแก่งานและส่วนรวมทำให้ท่านได้เข้ารับพระราชทานรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภา กลุ่มผู้บริหาร ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ณ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ผู้บริหารวิสัยทัศน์ไกลด้านการศึกษาและการแพทย์ :
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล เป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลรอบรู้ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ และการบริหารองค์กร ท่านเป็นอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (วาระดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2558 – 2562) โดยมีผลงานโครงการอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมากมาย เช่น โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็น Green Campus ได้รับรางวัลสถาบันการศึกษาสีเขียวกับสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับที่ 86 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทยจาก The UI GreenMetric World University Ranking 2017 นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้นำวิธีการจัดการสมัยใหม่ที่ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมุ่งสู่ระดับโลก ด้วยการสร้าง Branding และ Core Values ซึ่งส่งผลให้เกิดความสามัคคีภายในมหาวิทยาลัย ผลักดันคณะต่างๆ ไปในทิศทางที่มุ่งสู่ "ปัญญาของแผ่นดิน" รวมถึงการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการยอมรับของประชาชนต่อระบบบริการและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต่างๆ ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเท่าเทียมในการให้บริการทางสุขภาพอีกด้วย
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว