ย้อนกลับไปหน้า Alumni Recognition
ผู้สร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติ :
ศาสตราจารย์ ดร.สุภา เป็นนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในวงการสาธารณสุข ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยท่านได้ประยุกต์ใช้ความรู้ทางสาธารณสุขศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ตามหลักวิชาการ ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ที่สร้างประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อประชาชนทุกกลุ่มวัยมีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยกับนักวิชาการทั่วโลก พร้อมทั้งมีส่วนในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ และนักวิจัย ด้วยการจัดการอบรม การให้คำปรึกษาด้านการทำวิจัย และการสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับสากล ซึ่งก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีวิชาการนานาชาติ ยังอุทิศตนในการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาส่วนตัวในการสอน แนะนำ และสนับสนุนงานวิจัยของนักศึกษา ตลอดจนใช้ทุนส่วนตัวเพื่อสนับสนุนโอกาสในการศึกษาค้นคว้าและการเผยแพร่ผลงานของนักศึกษาและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ด้วยคุณูปการอันโดดเด่นและความเสียสละอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยและนานาชาติ ทำให้ท่านได้รับรางวัล Mahidol University’s Researcher of The Year 2025 ด้าน High Impact Researcher in Health Science
“การได้เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยมหิดลนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นองค์กรที่มีเกียรติและได้รับการยอมรับในระดับสากล เราได้รับการศึกษาในระบบที่ดี มีคุณภาพ และได้รับการปลูกฝังทั้งความรู้ ความสามารถ และทักษะที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกับนักวิชาการระดับโลกได้อย่างมั่นใจ มหาวิทยาลัยมหิดลยังสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาในทุกมิติ พร้อมทั้งปลูกฝังให้เรามีจิตบริการ และทำงานเพื่อผู้อื่น ภายใต้คติ “ปัญญาของแผ่นดิน” และการดำเนินชีวิตในวิถี “ลูกพระบิดา” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมให้เราเติบโตเป็นคนดีของสังคมความภาค ภูมิใจนี้ยิ่งทวีคูณเมื่อได้กลับมาทำงานในมหาวิทยาลัยที่เคยเรียน สานต่อภารกิจเพื่อพัฒนา สร้างสรรค์ และส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อสร้างทายาททางวิชาการที่มีคุณภาพต่อไป” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ
อ่านเรื่องราว
ผู้สร้างระบบความปลอดภัยสุขอนามัยนิคมอุตสาหกรรมไทย :
คุณบุปผาใช้ความรู้จากมหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาให้มีองค์ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวางแผนป้องกัน
การเกิดอุบัติเหตุ ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและเฝ้าระวังด้านสุขอนามัยให้ผู้ประกอบการ พนักงานในโรงงาน ตลอดจนชุมชนโดยรอบ พัฒนาข้อกำหนดระบบการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (Process Safety Management: PSM) โดยนำมาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Occupational Safety and Health Administration : OSHA) มาประยุกต์ใช้ โดยขับเคลื่อนคณะทำงานจากหลายหน่วยงาน และพัฒนาเป็น “ข้อบังคับคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559” ที่ผ่านความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน ซึ่งเมื่อข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้และผู้ประกอบการได้นำข้อบังคับดังกล่าวไปประยุกต์ใช้จริง ทำให้ความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลดลง รวมถึงการประสานวางแผนจัดตั้งและบริหารจัดการศูนย์ฉีดวัคซีนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ดูแลพนักงานในโรงงานได้ถึง 200,000 คน ให้ไม่มีผลกระทบรุนแรงและไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี
“ความภูมิใจที่ได้เดินตามรอยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่ง
การสาธารณสุขไทย ท่านให้ความสำคัญในการป้องกันการเกิดโรค เนื่องจากการรักษาตัวมีค่าใช้จ่ายสูง ท่านจึงให้ความสำคัญในวิชาสาธารณสุข ซึ่งเป็นรากฐานในการทำงานพัฒนาด้านอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นเชิงป้องกัน
สร้างบุคลากรที่ดูแลอุตสาหกรรมให้เข้มแข็ง สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประเทศชาติ ควบคู่กับการสร้าง
ความมั่นคงทางสังคมให้สามารถดูแลภาคอุตสาหกรรมและชุมชนให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก คุณบุปผา กวินวศิน
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
Top hospital admin & research lead in Bangladesh :
Dr. Muhammed Ashraful Alam is a highly accomplished hospital administrator and research coordinator at the largest public hospital in Bangladesh, a 2,600-bed facility. His leadership was particularly evident during the COVID-19 crisis, where he served as the hospital's focal person, managing 700-800 admitted COVID-19 cases daily. He is recognized internationally for his initiatives to address preventive issues and promote behavioral changes that reduce the disease burden through community participation in low- and middle-income countries. He supervises research works at home and abroad. He is to conduct several management and academic training for capacity building for health staff. He has published more than 25 peer-reviewed papers in national and international-level journals. He worked in Africa under the United Nations (UN) as a senior medical officer and got the UN Medal for successful completion. He got research grants from USAID, the Ministry of Health, the Bangladesh Medical Research Council (BMRC), and the WHO. He still working as a research coordinator in a WHO-funded drug trial regarding the prevention of neonatal deaths in premature delivery. He got training in Japan, and China and also visited WHO headquarters at Geneva to share our research findings.
อ่านเรื่องราว
ผู้มีบทบาทในการจัดร่างมาตรฐานการทำงานระดับประเทศ :
คุณประกาศนำความรู้ทางวิชาการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มาประยุกต์ปรับใช้กับผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มโรงงานปิโตรเคมีและการกลั่น ซึ่งถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงโดยมีแนวคิดเน้นที่การป้องกันเป็นสำคัญ เช่น การออกแบบให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น การอบรมให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ด้านความปลอดภัย การกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัย การประเมินความเสี่ยง การวางแผนการตรวจสอบด้านความปลอดภัยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ รวมถึงใช้เป็นต้นแบบให้ทางราชการ นำไปเป็นตัวอย่างและออกกฎหมายควบคุมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อาทิ การประเมินความเสี่ยง ความปลอดภัยในกระบวนการผลิต เป็นต้น นอกจากนี้ ท่านยังมีบทบาทในการจัดร่างมาตรฐานในการทำงานระดับประเทศ เช่น อุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจ : ชนิดกรองอนุภาค ซึ่งดำเนินการในนามของสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน (ส.อ.ป.) รวมถึง มีบทบาทในการทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ โครงการนำร่องเพื่อจัดการการระบายสารอินทรีย์ระเหยและไอสารเบนซีน ในนามสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการแหล่งกำเนิดสารอินทรีย์ระเหยและปริมาณเบนซีนในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานและชุมชนโดยรอบ นำไปสู่การออกแนวทางการปฏิบัติ เพื่อลดผลกระทบสารดังกล่าว ได้แก่ การรายงานการใช้หอเผาทิ้ง มาตรการควบคุมการระเหยไอสารอินทรีย์ระเหยจากการประกอบกิจการ และมาตรการควบคุมการระเหยไอสารอินทรีย์ระเหยจากถังกักเก็บ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาควิชาการ จากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้ท่านได้รางวัล CEO ดีเด่น (หลักสูตรผู้นำประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ รุ่นที่ 3) จากสถาบันการสร้างชาติ ผลงานของท่านที่ผ่านมาสะท้อนการนำความรู้ไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมไทยให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับทุกคน
อ่านเรื่องราว
อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร :
คุณสุวรรณาได้ริเริ่มดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร เพื่อลดปัญหาภาวะ โลกร้อนและการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกรุงเทพมหานครอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ด้วยเล็งเห็นว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อประชากรสูงถึง 7.1 ตันต่อคนต่อปี (ปี พ.ศ 2550) โดยในปี พ.ศ. 2549 ได้ยกร่างแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 – 2555 โดยกำหนดเป้าหมายลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของปริมาณการปลดปล่อยตามการคาดการณ์ในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งผลการดำเนินการตามแผนดังกล่าว สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี พ.ศ. 2555 ได้ร้อยละ 14.3 จากความสำเร็จดังกล่าวนำไปสู่การจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2556 - 2566 ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) และความร่วมมือจากรัฐบาลท้องถิ่น เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยร้อยละ 13.57 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเทียบกับการดำเนินงานในกรณีปกติ (Business-as-Usual: BAU) ในปี 2563
“มองทุกปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย มหาวิทยาลัยมหิดลสอนให้เราเป็นคนที่มีเหตุผล ไม่กลัวปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้หลักคิดทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาและมองโลกในแง่ดี ก็เลยทำให้มีโอกาสได้ประสบความสำเร็จ ภาคภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เข้ามาเป็นสมาชิกและจบการศึกษาที่นี่” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจากคุณสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
การจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนการมีส่วนร่วมของประชาชน :
คุณฐนยศมีประสบการณ์ในการทำงานด้านสาธารณสุขมานานกว่า 34 ปี เป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการเริ่มรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ สร้างทัศนคติที่ดีในการคัดแยกขยะอย่างจริงจังในระดับท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเพื่อการคัดแยกขยะกำพร้าในจังหวัดปทุมธานี โดยเป็นผู้ถ่ายทอดการจัดการขยะระดับครัวเรือนทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัดมานานกว่า 7 ปี ทำให้ในปัจจุบันมีกลุ่มขับเคลื่อนการคัดแยกขยะกว่า 10 กลุ่มที่ดำเนินการด้วยตนเองโดยเทศบาลเป็นผู้สนับสนุน ทำให้สามารถลดปริมาณขยะที่จะไปยังบ่อฝังกลบในระยะเวลา 10 ปี (2557-2567) จำนวน 705.74 ตัน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 945.72 ตันกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ประชาชนมีรายได้จากการจำหน่ายขยะรีไซเคิลเป็นเงิน 505,024.60 บาท (ปี 2565-2567) ทั้งนี้ยังมีการจัดตั้งจุดแยกขยะอันตรายไว้ตามหมู่บ้าน จัดเก็บเดือนละ 1 ครั้ง การตั้งวางถังแยกเศษอาหารของหมู่บ้าน (ถังข้าวหมู) เพื่อนำไปเป็นอาหารปลาช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็น นำขยะมาใช้ประโยชน์และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การส่งเสริมการคัดแยกกล่องนมยูเอชทีเพื่อการรีไซเคิล การคัดแยกพลาสติกหลายชั้น (MLP) ส่งให้โครงการกล่องยูเอชทีรีไซเคิลได้ การคัดแยกน้ำมันพืชใช้แล้ว มาแลกเป็นน้ำมันใหม่ (นำไปเป็นส่วนผสมของน้ำมันเครื่องบิน) แทนการเททิ้งลงในท่อระบายน้ำที่ก่อให้เกิดการอุดตัน ที่สำคัญยังส่งเสริมการคัดแยกขยะกำพร้า (ขยะทั่วไป) ที่มีปริมาณมากขึ้นในชุมชนเมือง โดยบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทเอกชนมารับไปกำจัดโดยการเผาเพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยืดระยะเวลาการใช้ของบ่อฝังกลบได้อีกทางหนึ่ง จนได้รับโล่รางวัลเมืองสุขภาพดีระดับทอง ประจำปีงบประมาณ 2567 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
อ่านเรื่องราว
พ.อ.หญิง ผศ.ดร. พรรณี เป็นอาจารย์พยาบาลผู้สอนนักเรียนพยาบาล นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลและนายทหารนักเรียนหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในหัวข้อการสร้างเสริมสุขภาพ พิษภัยบุหรี่และการควบคุมการบริโภคยาสูบ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนและการสร้างนวัตกรรมสุขภาพให้กับชุมชน และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมนักศึกษาพยาบาลสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่ อีกทั้งยังได้นำความรู้และประสบการณ์จากการทำวิจัยในระดับปริญญาเอกไปต่อยอดในการจัดโครงการลดละเลิกบุหรี่ในกำลังพลทหารของกองทัพบก และทำงานด้านการบริการวิชาการในการเป็นวิทยากร เป็นอาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาปริญญาโท เป็นประธานกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจเครื่องมือวิจัยและบทความทางวิชาการ รวมถึงเขียนหนังสือ เรื่อง พยาบาลกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ : แนวคิด ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ และเขียนตำราหน่วยที่ 6 ชุดวิชา การพยาบาลอนามัยชุมชน ฯ ของ มสธ. เรื่อง การดูแลสุขภาพที่บ้าน อีกด้วย
อ่านเรื่องราว
คุณกฤษฎาเป็นผู้มีความมั่นใจในความรู้เฉพาะทางระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหิดล คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และได้ประยุกต์องค์ความรู้ดังกล่าวเพื่อสร้างมาตรฐานการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล ผ่านการทำหน้าที่คณะกรรมการวิชาการ ของสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรม และคณะอนุกรรมการร่างกฎหมายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ควบคุมภาวะฉุกเฉิน และศูนย์ฝึกอบรมทางด้านการจัดการเหตุฉุกเฉินที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งถือเป็นต้นแบบด้านการจัดการเหตุฉุกเฉินของประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์พัฒนาบุคคลากรด้านการจัดการเหตุฉุกเฉินที่ได้รับการยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทักษะด้านการจัดการด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ให้สอดคล้องกับทิศทางด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ (Sustainable Development Goals :SDG) จนเป็นที่ยอมรับของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยคัดเลือกให้ได้รับรางวัลสุดยอดซีอีโอ รุ่นใหญ่ สาขาสินค้าอุตสาหกรรม และรางวัลเดอะเบสซีอีโอ รุ่นใหญ่ (The Best CEO) ประจำปี พ.ศ. 2566 ของประเทศไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์บริการ (Services Center) ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และการจัดการภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ รวมทั้งเป็นผู้นำในการพัฒนาต้นแบบธุรกิจสีเขียว (Green Economy) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ GGC “เปิดตัว MD คนใหม่ ‘กฤษฎา ประเสริฐสุโข’ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Businessสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน Click
⮕ GGC คว้ารางวัลเดอะเบสท์ซีอีโอรุ่นใหญ่ และสุดยอดซีอีโอรุ่นใหญ่ Click
อ่านเรื่องราว
รศ.ดร. จักรกฤษณ์ เป็นผู้มีส่วนร่วมในการยกร่างและผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551 ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญต่อการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดให้สาขาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการควบคุมมลพิษเป็นวิชาชีพควบคุม ท่านจึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ยกร่างและร่วมพัฒนาข้อบังคับของสาขาดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านนี้และต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ในฐานะของอาจารย์และนักสิ่งแวดล้อม รศ.ดร. จักรกฤษณ์ได้นำความรู้ไปใช้ในการสอน การวิจัย และเป็นที่ปรึกษาแก่มหาวิทยาลัยและองค์กรต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยมีผลงานจากการเขียนตำราวิชาการ 46 รายการ งานศึกษาวิจัย 51 รายการ อีกทั้ง ท่านได้รับการยอมรับให้ดำรงตำแหน่งกรรมการที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและนอกประเทศ เช่น คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และประธานอนุกรรมการอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
รองศาสตราจารย์กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์ สำเร็จการศึกษาอนุปริญญาพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (สาธารณสุขศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านเป็นอาจารย์พยาบาลที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตลอดระยะเวลาของการเป็นอาจารย์ ท่านอุทิศตนในการสอน ถ่ายทอดความรู้เพื่อพัฒนาการศึกษาพยาบาลอย่างเต็มที่ โดยได้รับรางวัลการสอนภาคปฏิบัติดีเด่น และรางวัลพยาบาลดีเด่นสาขาการศึกษาพยาบาล ประเภทผู้ปฏิบัติการศึกษา จากสภาการพยาบาล ท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางวิชาการเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอย่างมาก ท่านเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่งตำรา และเขียนบทความ ตลอดจนทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพการพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ท่านมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย โครงการพัฒนาหลักสูตรและอาจารย์พยาบาล เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ได้รับทุนสนับสนุนจากองค์การเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ทำให้พยาบาลที่จบใหม่มีความรู้ในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สามารถให้คำแนะนำและการช่วยเหลือแม่ให้สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ อีกทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มและสนับสนุนให้จัดทำหลักสูตรและเปิดการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทย โดยเปิดอบรมในปี พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับประเทศ และได้ทำข้อตกลงกับกระทรวงสาธารณสุขในการจัดให้พยาบาลนมแม่ทั่วประเทศได้เข้ามารับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นกรรมการอำนวยการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กรรมการอำนวยการจัดประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติของมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ซึ่งจัดทุก 2 ปี ปัจจุบันเป็นครั้งที่ 8 รองศาสตราจารย์กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมพยาบาลนมแม่ประเทศไทย และเป็นนายกสมาคมคนแรกเพื่อพัฒนาศักยภาพพยาบาลนมแม่และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำให้เกิดความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างสมาชิกและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นองค์กรวิชาชีพที่เข้มแข็งและมีบทบาทในการขับเคลื่อนงานด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในการปกป้องส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ท่านได้อุทิศตนในการทำงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ โดยอุทิศตนร่วมงานช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และองค์กรเครือข่ายการทำงานพัฒนาสังคมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกว่า 22 ปี โดยมีส่วนร่วมดำเนินงาน เช่น การเป็นวิทยากรให้ความรู้และกำลังใจแก่ผู้รับเลี้ยงเด็ก และครูของบ้านรับเลี้ยงเด็กในชุมชน การพัฒนาหลักสูตรองค์รวมเพื่อสร้างขีดความสามารถให้แก่ผู้ดูแลเด็ก 0-3 ปี ปัจจุบันเป็นเลขาธิการมูลนิธิฯ จากผลงานและคุณความดีที่ท่านได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ต่อสังคมและมวลชนตลอดมาทำให้ท่านได้รับรางวัล “ดาราอวอร์ด” ประจำปี พ.ศ. 2558 จากเสถียรธรรมสถานที่มอบให้บุคคลที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับจุลภาค ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น จนถึงระดับมหภาพ คือสังคมไทยและสังคมโลก ด้วยเป็นที่ประจักษ์ทั้งด้านความสามารถในทางวิชาการและการอุทิศตนในการทำงานเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ท่านได้รับรางวัลมหิดลทยากร ปี 2563 จากสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล และได้รับการคัดเลือกจากสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้เป็น “สตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2564”
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว