ย้อนกลับไปหน้า Alumni Recognition
นพ.อภิสิทธิ์ ธำรงวรางกูร ได้นำแนวคิดเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่สู่เศรษฐกิจพอเพียง หรือ BCG Economy มาพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของ รพ.อุบลรัตน์ ให้เป็นโรงพยาบาลที่ดีมีคุณภาพ มีความเสมอภาค มีประสิทธิภาพ และชุมชนมาร่วมเป็นเจ้าของโรงพยาบาล และพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนอย่างยั่งยืน ที่สามารถช่วยคนทุกข์คนยากคนยากคนจน เช่น คนไข้ติดเตียง คนพิการ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้เปลี่ยนจากภาระจนกลายเป็นพลัง จัดระบบการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ไม่ให้เกิดคนทุกข์คนยากคนยากคนจนรายใหม่ และสร้างธนาคารอาหารปลอดสารเคมี ธนาคารกล้วย ธนาคารไผ่ซางหม่น และธนาคารต้นไม้สร้างบ้านได้ บนธนาคารดินนับพันไร่ต่อหมู่บ้าน และนับแสนไร่ต่ออำเภอ เพื่อดักจับของฟรีจำนวนมาก เช่น แสงแดด น้ำฝน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และขยะอินทรีย์ เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นปัจจัยสี่ และเงินทุน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น และเพื่อร่วมจ้างนักบริบาลชุมชนของพ่อแบบเต็มเวลาที่คัดเลือกจากคนในชุมชนที่รักชุมชน เป็นคนที่มีจิตอาสาที่สุด ชาวบ้านยอมรับ และชุมชนอยากได้ มาเรียนรู้ภาคปฏิบัติที่โรงพยาบาลชุมชน 6 เดือน และเรียนรู้ภาคทฤษฎีจากสถาบันการศึกษา เพื่อนำความรู้มาดูแลชุมชนและผู้คนในชุมชนให้อุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จนคนในหมู่บ้านมีสัมมาอาชีพ จนเป็นหมู่บ้านศานติสุขและรวมกันต่อยอดจนเป็นอำเภอศานติสุขในระยะยาว โดยได้ดำเนินการในอำเภออุบลรัตน์ และอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งขยายผลไปสู่ อำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และอำเภออื่นๆที่สนใจ ภายใต้การสนับสนุนของโครงการรามาธิบดีเพื่อโรงพยาบาลชุมชน บริษัทดรีมเวิลด์ และมูลนิธิ เอส ซี จี โดยระยะยาวคนในชุมชนและชุมชนที่เข้มแข็งกลับมาดูแลและจ้างงานนักบริบาลชุมชนของพ่อแบบเต็มเวลาเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดไป รวมทั้งส่งต่อวิธีคิดและวิธีปฏิบัติให้แพทย์รุ่นน้อง และนักศึกษาแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปช่วยกันขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ ก้าวอีกสักก้าว (Let the villagers own the hospital) | นพ.อภิสิทธิ์ ธำรงวรางกูร | TEDxKhonKaen Click
⮕ "ความพร้อมรอไม่ได้" คุยเรื่องการบริหารโรงพยาบาลชุมชุน และสุขภาพคนไทย กับ "นพ. อภิสิทธิ์ ธำรงวรางกูร" Click
อ่านเรื่องราว
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล คว้ารางวัลนักบริหารรพ.ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2563 จากสมาคมบริหารรพ.แห่งประเทศไทย
มหาวิทยาลัยมหิดลตั้งปณิธานว่า “ปัญญาของแผ่นดิน” ตั้งแต่สมัย ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา ได้ขยายขอบเขตการพัฒนาบทบาทของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สู่ “การเปลี่ยนโลก” (World Changer) เพื่อสร้างสรรค์สุขภาวะแก่มวลมนุษย์ จากผลงานที่ประจักษ์ ส่งผลให้ได้รับการยกย่องจากสมาคมบริหารรพ.แห่งประเทศไทย ให้ได้รับรางวัลนักบริหารรพ.ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2563 และได้พิสูจน์ศักยภาพในการเป็น “Academic Hub” หรือศูนย์กลางด้านวิชาการแพทย์ที่โดดเด่น และพร้อมสู่ความ ท้าทาย ผลงานที่หวังจะนำไปสู่ “การเปลี่ยนโลก” คือ “การพลิกโฉม” รพ.ศิริราช ให้กลายเป็น “Smart Hospital”
ในช่วงวิกฤตแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ ตลอดจนประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการต่อสู้กับ Covid-19 และโรคติดเชื้ออื่น
ผลงานที่เป็นที่สนใจจากนานาชาติ ซึ่งจะนำพาคณะแพทย์ศิริราช สู่ “การเปลี่ยนโลก” คือ การใช้ “รถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช” เพื่อให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองรอดพ้นจากความพิการ เป็นนวัตกรรมเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเคลื่อนที่ สามารถเข้าถึงผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล นำผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉินเข้ารับการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และส่งผลออนไลน์ถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายใน 3 ชั่วโมง
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา เมื่อ "ความสุข" ขึ้นกับปริมาณงานที่ทำ Click
⮕ ถอดมุมคิด “ศิริราช” ความสำเร็จเกิดขึ้นจากการลงมือทำ Click
⮕ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศ.นพ.ประสิทธิ์ เป็น ผอ.รพ.จุฬาภรณ์ แทน ศ.นพ.นิธิ Click
อ่านเรื่องราว
ผู้นำในการพัฒนาวิชาชีพพยาบาล โดยเป็นอาจารย์ที่สอนนักศึกษาพยาบาลทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลอายุรศาสตร์ รวมทั้งทำงานให้กับองค์กรวิชาชีพในการพัฒนาความก้าวหน้าของพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีส่วนทำให้เกิดพยาบาลผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง (Advanced Practice Nurse: APN) ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และของประเทศไทย ทำให้สังคมเห็นบทบาทของพยาบาลในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก พยาบาลสายปฏิบัติงานสามารถเติบโตก้าวหน้าในวิชาชีพได้สูงสุด ได้รับการเทียบคุณวุฒิเทียบเท่าปริญญาเอก และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบบริการพยาบาลแบบ one stop service เพื่อเลิกบุหรี่สำหรับผู้ป่วย มีส่วนทำให้เครือข่ายพยาบาลฯ ได้รับรางวัล ด้านการควบคุมยาสูบจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2564
อ่านเรื่องราว
ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข เป็นจักษุแพทย์เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคจอประสาทตา ที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาตาบอดในประเทศไทย โดยเฉพาะภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตา ซึ่งเคยเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาบอดลำดับที่ 2 ของประเทศ โดยพัฒนาวิธีการคัดกรองด้วยการใช้ภาพถ่ายจอประสาทตา และริเริ่มโครงการฝึกอบรมบุคลากรที่ไม่ใช่จักษุแพทย์ให้สามารถคัดกรองผู้ป่วยโรคจอประสาทตาได้ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนจักษุแพทย์ จนนำไปสู่นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานเข้าจอประสาทตาทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังเพิ่มการเข้าถึงยารักษาเบาหวานเข้าจอประสาทตา ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่ตาบอดอันเนื่องมาจากภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตาลดลงอย่างมาก นายแพทย์ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ได้รับรางวัล The Sasakawa Health Prize 2022 จาก องค์การอนามัยโลก ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์อย่างมหาศาลแก่วงการสาธารณสุข ณ องค์การอนามัยโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส วันที่ 27 พฤษภาคม 2565
อ่านเรื่องราว
หมอฐา เป็นสัตวแพทย์รักษาม้า หรือที่เรียกกันว่า “หมอม้า” ที่ทำงานในรูปแบบ Ambulatory Services ที่ออกให้บริการตรวจรักษาม้านอกสถานที่ทั่วประเทศไทยมีเป้าหมายเพื่อให้เจ้าของม้าได้เข้าถึงสัตวแพทย์มากขึ้น เพื่อให้ม้าได้รับตรวจรักษาอย่างเหมาะสม เป็นที่ปรึกษาและเป็นวิทยากรจัดสัมมนาให้กับฟาร์มที่สนใจพัฒนาคุณภาพในการเลี้ยงและดูแลม้า โดยเน้นไปในเรื่อง Preventive medicine เพื่อช่วยป้องกันโรคและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยของม้าโดยส่วนตัวหมอฐาอยากจะทำการตรวจรักษาม้าให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เจ้าของม้าทุกคนและม้าทุกตัวรู้สึกโชคดีที่ได้มารับการตรวจรักษา จึงได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อขยายกรอบความรู้ความสามารถที่มีให้กว้างขึ้น นำมาปรับใช้ในการรักษาม้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปหมอฐาได้รับรางวัลสัตวแพทย์ตัวอย่างคลินิกปฏิบัติสัตว์เลี้ยงแห่งปี สายวิชาชีพ ประจำปี พ.ศ.2565 (Best Practitioner of the Year 2022) เป็นรางวัลที่มอบให้กับสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ที่ทุ่มเทให้กับการรักษาสัตว์ มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นแบบอย่างที่ดี่ และเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบวิชาชีพ มีการบริการและความรับผิดชอบต่อสังคม มีการเพิ่มพูนและพัฒนาตัวเองด้านความรู้ทางสัตวแพทย์อย่างต่อเนื่อง และมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพสัตวแพทย์
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ “เรื่องจริง NIGHT LIFE” เปิดใจหมอม้าสุดฮอต เจาะศาสตร์การรักษาของ "คนรักษาม้า & ม้ารักษาคน" Click
อ่านเรื่องราว
ปัจจุบันนายนิเวศน์ ประยูรเธียร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือทรีเอ็นโฮลดิ้ง ซึ่งประกอบไปด้วย 6 บริษัทในเครือ นับเป็นบริษัทแรก ๆ ในประเทศที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพและเครื่องมือในห้องปฏิบัติการของไทย ด้วยเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีทางด้านอณูชีวภาพจะกลายมาเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการวิทยาศาสตร์ จึงได้พยายามเผยแพร่ความรู้ทางด้านนี้ โดยมีการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมกิบไทยขึ้นตั้งแต่ปี 2536 เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้และทดลองเพื่อนำไปใช้งานจริง ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีอณูชีวภาพมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางตั้งแต่งานวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการ จนได้รับการต่อยอดไปสู่การนำไปประยุกต์ใช้ในสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์ พืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากมีการสนับสนุนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และบุคลากรทางการแพทย์ของไทยในการค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่ เป็นเวลากว่า 38 ปี จึงได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ อีกทั้งได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณอีกมากมาย ทำให้เป็นแรงบันดาลใจในการริเริ่มโครงการตอบแทนสังคม “สานฝันวันฟ้าใส ธารน้ำใจเพื่อการศึกษา” ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โดยสร้างอาคารเรียนถาวร รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคที่ถูกสุขอนามัย และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน เพื่อให้เยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาได้รับการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 15 ปีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน
อ่านเรื่องราว
ทันตแพทย์อรรถพรเริ่มจากการเป็นทันตแพทย์คนแรกที่นำความรู้ในตำราไปช่วยรักษาโรคฟันให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดแพร่ นำประสบการณ์จากการทำกิจกรรมนักศึกษา ไปสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพฟันให้กับเด็กนักเรียนในอำเภอวังชิ้นและขยายเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์สุขภาพฟันในระดับจังหวัด ก่อนจะก้าวเข้ามาทำงานให้กับองค์กรวิชาชีพผ่านการเลือกตั้ง จนดำรงตำแหน่งเลขาธิการทันตแพทยสภา วาระที่ 8 นอกจากนั้น ยังได้เข้าไปมีบทบาทขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ นำความรู้และประสบการณ์ทางการแพทย์ ผสมผสานเทคโนโลยีสารสนเทศ ขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เริ่มต้นจากตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ รับผิดชอบการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการ สะสมประสบการณ์จนก้าวเข้าสู่ตำแหน่งรองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และยังมุ่งมั่นนำความรู้ อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ช่วยพัฒนาระบบสุขภาพให้ก้าวหน้าต่อไป
อ่านเรื่องราว
จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นได้รับทุนรัฐบาลไทย ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก สาขากายภาพบำบัด ณ University of South Australia, Adelaide, Australia กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ณ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ได้ทำงานวิจัยเพื่อค้นหาวิธีป้องกันการบาดเจ็บทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อจากการทำงาน โดยเฉพาะโรคออฟฟิศซินโดรม และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ในสาขาวิชากายภาพบำบัด เมื่อปี พ.ศ. 2559 เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชากายภาพบำบัด และคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ นอกจากนี้ ได้ทำงานให้กับสภากายภาพบำบัดเพื่อพัฒนาวิชาชีพมาอย่างต่อเนื่อง เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา อุปนายก เลขาธิการสภา รวมถึงเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (สาขากายภาพบำบัด) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล และคณะกรรมการเครื่องมือแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงในหน่วยงานอื่นๆ อาทิ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา สำนักงานศาลยุติธรรม สภาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
อ่านเรื่องราว
ผู้วางรากฐานและขับเคลื่อนระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2535 โดยใช้การรับรอง HA (Healthcare Accreditation) เป็นกลไกการขับเคลื่อนที่สำคัญ บนพื้นฐานของหลักคิดที่ว่า “การพัฒนานำการประเมิน” และ “accreditation เป็นกระบวนการเรียนรู้ ไม่ใช่การตรวจสอบ” ดังตัวอย่างการบูรณาการเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) มาตรฐานโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพและมาตรฐาน HA เข้าด้วยกัน
นพ.อนุวัฒน์ เริ่มทำงานคุณภาพภายใต้ร่มของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และได้จัดตั้ง “สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.)” ขึ้นในปี 2540 และปรับสถานะเป็น “สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน)” เมื่อปี 2552 จนได้รับการรับรองจาก ISQua ทั้งตัวมาตรฐานองค์กรและกระบวนการพัฒนาผู้เยี่ยมสำรวจ อีกทั้งเป็นผู้สร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับชาติและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพในรูปแบบต่างๆ เช่น Provincial Learning Network, Quality Coach, HA Collaborating Center, HA National Forum
อ่านเรื่องราว
รองศาสตราจารย์ ดร.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล เป็นผู้นำในการพัฒนาหลักสูตรของคณะพยาบาลศาสตร์ และผู้ผลักดันให้มีการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพยาบาลศาสตร์ เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ท่านอุทิศตนเพื่อพัฒนานักศึกษาและการเรียนการสอน ในด้านการวิจัย วิชาการ การปฏิบัติงาน รวมไปถึงการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศ ส่งผลให้คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยผลงานเชิงประจักษ์ทางการพยาบาล รองศาสตราจารย์ ดร. กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก Fellow in the American Academy of Nursing: FAAN เป็นคนแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2555 ตลอดระยะเวลาการทำงาน ท่านมีส่วนร่วมในการผลักดันกฎหมายด้านสาธารณสุข และพัฒนาสุขอนามัยของประชาชนไทยให้ดีขึ้น แม้จะเกษียณอายุราชการ ท่านยังคงพัฒนาคณะพยาบาลศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหิดลอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น“รางวัลมหิดลทยากร” ในปี 2551
อ่านเรื่องราว