ย้อนกลับไปหน้า Alumni Recognition
ผู้เชื่อมั่นในธรรมชาติที่จะส่งเสริมศักยภาพของเด็ก:
คุณสาริณีเป็นผู้ปฏิบัติตามปรัชญาของมหาวิทยาลัยมหิดล คือ “ความสำเร็จที่แท้จริงอยู่ที่การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ” โดยการทำงานเพื่อถ่ายทอดความรู้ความสามารถด้านการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนพอดีพอดี ส่งเสริมพัฒนาการและปรับพฤติกรรมเด็กพิเศษ โดยรับเด็กพิเศษให้เข้ามาเรียนรู้ใช้ชีวิตในรูปแบบ Homeschool โดยใช้ธรรมชาติในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กทุกด้านอย่างเป็นองค์รวม ค้นหาและเชื่อในศักยภาพของเด็กทุกคน เพื่อให้เด็กเป็นคนดีเข้าใจตนเองและผู้คนรอบข้าง ผลักดันเพื่อให้เด็กบรรลุเป้าหมายเฉพาะตัว สามารถดูแลตนเอง ใช้ชีวิต พึ่งตนเองได้เมื่อเติบโตขึ้นไป รวมทั้งยังเป็นชุมชนที่ช่วยดูแลส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ดูแลสุขภาพจิตของคนทุกวัยเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ผู้ผลักดันนโยบายสุขภาพและความหลากหลายทางสังคม :
หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิจัยประชากรและสังคม จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในปีการศึกษา 2544 คุณศรีสุมาลย์ได้ทำงานด้านการบริหารโครงการสุขภาพ เช่น ในปี 2549 เธอเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มจัดการส่งเสริมการป้องกันเอชไอวี/เอดส์ในสังคมไทยโดยการใช้ถุงยางอนามัย และการป้องกันเอชไอวีเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้โดยไม่ตีตราผู้ที่ซื้อถุงยางอนามัย โดยเฉพาะเยาวชน โดยรับหน้าที่ในการระดมทุน ติดต่อภาคธุรกิจ ประสานกับผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมไทยในขณะนั้นเพื่อทำการรณรงค์ในเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพ และการป้องกันเอชไอวี/เอดส์รวมถึงการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นในปี 2552 – 2555 เธอได้เป็นผู้บริหารโครงการ Youth Advisory Panel ของ UNFPA เพื่อการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้สามารถให้ความเห็นในด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ เป็นผู้แทนและเป็นกระบอกเสียงในเวทีภาครัฐ ภาคประชาสังคม และเวทีการประชุมระหว่างประเทศ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี เธอประสบความสำเร็จในการบริหารโครงการสุขภาพที่ซับซ้อนและสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการ การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ให้ทุน การผลักดันนโยบายและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร มีประสบการณ์การทำงานที่ครอบคลุมประเด็นด้านสุขภาพหลากหลาย รวมถึงเอชไอวี วัณโรค มาลาเรีย อนามัยการเจริญพันธุ์ และโรคไม่ติดต่อ พร้อมกับการผสานความพยายามในระดับชาติเข้ากับความริเริ่มด้านสุขภาพระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกจากนี้ เธอยังได้ทำงานในประเด็นต่าง ๆ เช่น สิทธิมนุษยชน การเสริมสร้างพลังอำนาจให้ผู้หญิง สิทธิเด็ก และการพัฒนาศักยภาพของชุมชน เธอได้ร่วมงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ เช่น USAID, UNAIDS, WHO และพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนแนวทางแก้ปัญหาสุขภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเชี่ยวชาญในการออกแบบและดำเนินการระบบติดตามและประเมินผล การรับรองคุณภาพของข้อมูล และการสนับสนุนการตัดสินใจบนฐานของหลักฐาน ปัจจุบันคุณศรีสุมาลย์ ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แทนโครงการ EpiC ประเทศไทย (FHI 360) ในโครงการนวัตกรรมบริการเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสุขภาพทางเพศและสุขภาพใจในกลุ่มผู้หญิง เยาวชนหญิงและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการบูรณาการส่งเสริมสุขภาวะทางเพศในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนำร่องจัดบริการสุขภาพทางเพศ สุขภาพจิต โดยคนในชุมชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
อ่านเรื่องราว
Asia-Pacific championing data-driven HIV response :
Dr. Ye Yu Shwe is a dedicated public health professional currently serving as strategic information advisor at the UNAIDS Multi-country Office for Cambodia, Lao PDR, and Malaysia. Before this, he was a highly respected strategic information officer at the UNAIDS Asia and the Pacific Regional Office, renowned for his expertise in data-driven HIV response. With a background in medicine and social research, he has dedicated his career to improving the quality and depth of HIV data across the Asia-Pacific region, helping shape national AIDS responses. His work emphasizes the need for disaggregated data to address inequalities and ensure all affected populations have access to essential services. He is also an advocate for reducing HIV stigma, championing social justice, and ensuring dignity for people living with HIV. His innovative approach and commitment to equitable healthcare have inspired progress in combating HIV in the region.
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ผู้มีวิสัยทัศน์ผ่านการทำงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคม :
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์อุดม เป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ผ่านการทำงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติได้แก่ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ตามลำดับ ผลงานของท่านได้แก่การยกระดับคุณภาพบริการสุขภาพของโรงพยาบาลศิริราชให้ผ่านการรับรองของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ขึ้นสู่ระดับสูงที่เรียกว่า "Advanced HA" ได้สำเร็จเป็นโรงพยาบาลแรกของประเทศไทยและยังเป็นผู้วางนโยบายและผลักดันให้โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาการุณย์ได้รับการรับรองมาตรฐานการรักษาพยาบาลระดับสากล JCI อีกทั้งการทำงานของท่านร่วมกับกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขสามารถสรุปผลสำเร็จการดำเนินงานปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขออกมา 5 ด้านได้แก่ 1. การปฏิรูปการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รวมถึงโรคระบาดระดับชาติและโรคอุบัติใหม่ 2. การปฏิรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสร้างเสริมสุขภาพ ความรอบรู้ด้านสุขภาพการป้องกันและดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อทำให้เกิด Healthy Workplace Policy ระดับประเทศ 3. การปฏิรูประบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุด้านการบริบาลการรักษาพยาบาลที่บ้านเกิดการปรับหลักสูตรการพยาบาลทั่วประเทศ 4. การปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพและกองทุนที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการปฏิรูปบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค 5. การปฏิรูปการบริหารจัดการเขตสุขภาพทำให้เกิด Sandbox เขตสุขภาพนำร่อง 4 เขต เกิดระบบการกระจายอำนาจและกลไกบริหารจัดการเขตสุขภาพเกิดรูปแบบบริการใหม่หลากหลายเพื่อตอบสนองปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง ด้วยการทำงานอย่างจริงจัง ความเสียสละ อดทน ทุ่มเทให้เวลาแก่งานและส่วนรวมทำให้ท่านได้เข้ารับพระราชทานรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภา กลุ่มผู้บริหาร ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ณ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ผู้บริหารวิสัยทัศน์ไกลด้านการศึกษาและการแพทย์ :
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล เป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลรอบรู้ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ และการบริหารองค์กร ท่านเป็นอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (วาระดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2558 – 2562) โดยมีผลงานโครงการอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมากมาย เช่น โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็น Green Campus ได้รับรางวัลสถาบันการศึกษาสีเขียวกับสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับที่ 86 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทยจาก The UI GreenMetric World University Ranking 2017 นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้นำวิธีการจัดการสมัยใหม่ที่ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมุ่งสู่ระดับโลก ด้วยการสร้าง Branding และ Core Values ซึ่งส่งผลให้เกิดความสามัคคีภายในมหาวิทยาลัย ผลักดันคณะต่างๆ ไปในทิศทางที่มุ่งสู่ "ปัญญาของแผ่นดิน" รวมถึงการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการยอมรับของประชาชนต่อระบบบริการและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต่างๆ ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเท่าเทียมในการให้บริการทางสุขภาพอีกด้วย
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
ผู้ส่งเสริมสุขภาพฟันและช่องปากแก่เด็กในรร.ตชด.:
อุทิศตนทำประโยชน์ให้แก่วงการวิชาชีพทันตแพทย์เสมอมาและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ทันตแพทย์รุ่นใหม่ โดยการส่งเสริม บริหารและพัฒนาศูนย์ทันตกรรมพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเพื่อบำบัดรักษาดูแลส่งเสริมสุขภาพฟันและช่องปากแก่เด็กในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร นอกจากนั้นยังได้ร่วมออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ เป็นประจำตลอดมา ตลอดจนริเริ่มโครงการยุวทูตสุขภาพดี ร่วมกับ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และคณะสาธารณสุขศาสตร์ จากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้ท่านได้รับพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติชั้นสูงสุด โครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
อ่านเรื่องราว
วิศวกรผู้สร้างนวัตกรรมช่วยเหลือผู้พิการ :
ผศ.ดร.เซงเป็นผู้ที่มีความทุ่มเทในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้พิการ เนื่องจากปัจจุบันหนึ่งในปัญหาหลักด้านสาธารณสุขของประเทศไทยคือ การขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือแพทย์ที่ไม่เร่งด่วน ตลอดระยะเวลาที่เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ผศ.ดร.เซงได้ใช้ความรู้ความสามารถและแนวคิดในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรม เช่น ‘จดจำ’ อุปกรณ์จดบันทึกสำหรับผู้พิการทางสายตาแบบต้นทุนต่ำ, เครื่องเดินดี หรือ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าแก้ปลายเท้าตก สำหรับช่วยบำบัดผู้ป่วยอัมพฤกษ์ และหนึ่งในผลงานเด่นคือการประดิษฐ์คิดค้น ระบบเกมแอนิเมชัน (Animation) ช่วยควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวแขนสำหรับบำบัดผู้ป่วยอัมพฤกษ์ ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีทดแทนที่เหมาะสม ทำให้สามารถผลิตและบริจาคให้โรงพยาบาลรัฐกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อบริการผู้ป่วยในพื้นที่ ซึ่งโครงการได้สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายโรงพยาบาลในแต่ละเขตสาธารสุข ในการรวมตัวอบรมและส่งมือเครื่องมือ ด้วยการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งตอกย้ำถึงความตั้งใจของ ผศ.ดร.เซงในการส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้และสร้างอนาคตที่ดีแก่เยาวชนและผู้พิการที่มีรายได้น้อยในการเข้าถึงเทคโนโลยี
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ ม.มหิดล ส่งนวัตกรรม “ฝึกฝน” ฟื้นฟูผู้ป่วยทางสมอง ให้ 11 รพ. Click
⮕วิศวะมหิดล คิดค้นนวัตกรรม “เรียนรู้” บำบัดฟื้นฟูเด็กพิเศษและผู้ป่วยอัมพฤกษ์ Click
⮕ สถาบันราชานุกูล ร่วมกับ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาเครื่องมือฝึกฝนเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาเด็กพิเศษ Click
⮕ วิศวะมหิดล คิดค้น ‘จดจำ’ อุปกรณ์จดบันทึกเพื่อผู้พิการทางสายตาต้นทุนต่ำ Click
อ่านเรื่องราว
วิศวกรนักพัฒนานวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ :
รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ควบคู่กับการเป็นนักบริหารมามากกว่า 18 ปี ท่านมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาดิจิทัลเฮลท์แคร์และหุ่นยนต์หลายประเภท สนับสนุนให้ระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ในประเทศไทยพัฒนาเป็นจริงและมีประสิทธิภาพ เช่น หุ่นยนต์ช่วยแพทย์อัจฉริยะ หุ่นยนต์กู้ภัย หุ่นยนต์ผ่าตัด และหุ่นยนต์ฝึกแพทย์ผ่าตัด นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้บุกเบิกในการก่อตั้งภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล ท่านเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์ BART LAB ซึ่งเป็นแหล่งคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์และยังได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทย (Thai Robotics Society) เป็นประธานจัดแข่งขัน RoboCup Thailand การแข่งขัน RoboCup Asia-Pacific 2017 และ World RoboCup 2022 จนเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ท่านได้รับเลือกเป็น Trustee ของ World RoboCup Federation ทางด้านการบริหาร รศ.ดร.จักรกฤษณ์ เป็นอดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล 2 สมัย และได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย ถึง 2 สมัย ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิศวกรรมศาสตร์ 64 แห่งทั่วประเทศไทย และภายใต้การนำองค์กรของท่านสามารถขับเคลื่อนให้ 6 หลักสูตรของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดลได้รับการรับรองมาตรฐาน ABET ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการศึกษาระดับสากลและได้รางวัล TQC เป็นที่แรกของประเทศในกลุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
อ่านเรื่องราว
นักวิจัยนวดไทยและนวัตกรรมกายภาพบำบัดเพื่อประชาชน:
ศาสตราจารย์ ดร.วิชัยเป็นผู้นำในทีมวิจัยมุ่งเน้นศึกษากลไกทางสรีรวิทยาและประสิทธิผลของการนวดไทยในผู้ป่วยกรณีโรคต่าง ๆ ท่านสร้างกลุ่มวิจัยด้านนี้ขึ้นที่คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านตีพิมพ์ผลงานการวิจัยด้านการนวดไทยทั้งในวารสารระดับชาติและนานาชาติให้เป็นที่ประจักษ์แก่สากล ท่านเปิดอบรมความรู้และทักษะการนวดไทยแก่ประชาชน หมอนวดพื้นบ้าน นักศึกษากายภาพบำบัด และนักศึกษาทั่วไป ท่านได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการนวดไทยและรับเป็นวิทยากรรับเชิญทั้งในประเทศและต่างประเทศในประเด็นเกี่ยวกับการนวดไทย รวมถึงการสร้างสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมด้านนวดไทยเพื่อบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน เช่น ตะขอนวดตัววิไล เตียงนวดและดึงหลัง นอกจากนี้ยังมีการประดิษฐ์นวัตกรรมเตียงช่วยพลิกตัวเพื่อป้องกันแผลกดทับสำหรับผู้ป่วยที่อ่อนแรงไม่สามารถขยับตัวได้ในขณะนอน อีกด้วย
#MahidolUniversityNotableAlumni
Related Stories
⮕ มข.พัฒนา “เตียงอัจฉริยะ” ป้องกันแผลกดทับผู้สูงอายุติดเตียง Click
อ่านเรื่องราว
ผู้รังสรรค์งานกายภาพบำบัดระบบการหายใจด้วยนวัตกรรม:
ศาสตราจารย์ ดร. ชุลีเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างงานด้านนวัตกรรมของการประเมินและรักษาทางกายภาพบำบัดระบบการหายใจ จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาที่หลากหลาย เช่น 1. อุปกรณ์ BreatheMAX เพื่อระบายเสมหะ เพิ่มปริมาตรปอด ลดหอบเหนื่อย เพิ่มสมรรถภาพกล้ามเนื้อหายใจ และลดความดันโลหิตสูง มีหลักฐานการวิจัยรองรับซึ่งได้รับการยอมรับในวงการวิชาชีพทางการแพทย์ กายภาพบำบัด และได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ 2. เทคนิค Slow Loaded Breathing Exercise เพื่อลดความดันโลหิตสูง และเพิ่มสมรรถภาพปอดในผู้สูงอายุ 3. เทคนิค Spot Marching Exercise เพื่อประเมินและฝึกสมรรถภาพปอดในการออกกำลังกาย 4. อุปกรณ์ก่อแรงดันบวกในทางเดินหายใจ Conical Positive Expiratory Pressure เพื่อลดอาการหอบเหนื่อยขณะออกกำลังกายในผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นต้น นอกจากนวัตกรรมดังกล่าวแล้วท่านยังใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาสู่การเป็นผู้ผลักดันและพัฒนาเนื้อหาใหม่ของวิชากายภาพบำบัดระบบการหายใจให้เพียงพอ ทันสมัย สู่วงการกายภาพบำบัดและสังคมซึ่งถูกใช้เป็นตัวอย่างในการสอนของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย จากการอุทิศตนให้กับงานด้านกายภาพบำบัดทำให้ท่านได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เช่น Virtue of Commitment to High Ethical Standard ปี 2554 จาก European Respiratory Society และ International Fellowship in Respiratory Care ปี 2557 จาก American Association for Respiratory Care and American Respiratory Care Foundation
อ่านเรื่องราว